loading...

ไปสัมภาษณ์งานที่ SCG มาครับ ....คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับอีกหลายๆท่าน เลยขอเล่าให้ฟังครับ
บอกก่อนว่า จขกท. จบม.รัฐ ด้วยเกรดเฉลี่ยธรรมดา แต่ทำงานมาเกือบ 10 ปีแล้ว ... และเคยเปลี่ยนงานแค่ครั้งเดียว ....เลยต้องเข้ามาอ่นประสบการสัมภาษณ์งานและการเตรียมตัวใน pantip อยู่บ่อยๆ
... เจอกระทู้เกี่ยวกับ scg หลายคอมเม้นต์ จะไปในแนว ที่นี่เข้ายาก เลือกคนเกรดเฉลี่ยสูงๆ กีดกันมหาลัย บ้างก็ว่าไปจนถึง ต้องมีเส้น.... อ่านแล้วจิตตกไปพอสมควร -.-"
จขกท. ยื่นประวัติการทำงานผ่านเว็บฯหางานชื่อดังทั่วไป หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ HR ก็โทรมา ให้ไปสัมภาษณ์งาน ... อย่างแรกที่ทำให้คลายความกดดันไปเยอะ คือ HR ที่โทรมา สุภาพมาก ไม่ถึงกับเป็นกันเอง แต่ดีลด้วยง่ายมาก ทั้งการนัดส่งเอกสาร และนัดวันสัมฯ
พอถึงวันจริง...ไปตามนัดเจอคนมาสัมฯตำแหน่งเดียวกัน 4-5 คน...แต่ละคนชวนคุยกันพูดจาคล่องแคล่วมาก...ข้อมูลแต่ละคนแน่นจริง..จนผมแอบป๊อดไปเหมือนกัน...บางคนก็เล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟังนิดหน่อย แต่ที่แน่ๆ ทุกคนดูมุ่งมั่นมาก (จนตรูเครียด)
จากนั้น HR ก็จะอธิบายลักษณะงาน และหลักการของบริษัทให้ฟังคร่าวๆ ก่อนจะพาไปทำแบบทดสอบจิตวิทยา
หลังจากนั้น เป็นช่วงไฮไลท์ คือ การสัมภาษณ์งานโดยคณะกรรมการ มากัน 5 คนจร้าาาา ... >.> ก็อึ้งเหมือนกันนะ แอบสตั๊นไป 10 วิ เพราะแต่ละคนดูเป็นผู้ใหญ่มาก และมีคนนึงที่เราจำได้ว่าเป็นหัวหน้างานสายนี้มาเอง
ตอนแรก นึกว่าจะถูกถามเรื่องหนักๆ บรรยากาศขรึมๆ เครียดๆ ... แต่เปล่าเลยครับ....ทุกท่านเป็นกันเองมาก และไม่กดดันผู้สมัครเลย ... คำถามจะเป็นการซักไซ้ไล่เรียง เรื่องเกี่ยวกับตัวเรา ทัศนคติ และวิธีคิดค่อนข้างละเอียดเลยครับ...
ผมแนะนำตรงจุดนี้เลยครับ ... ว่า ให้คุณเป็นตัวของตัวเองไปเลย ...ไม่ต้องคิดว่าจะตอบให้ดูดี หรือตอบเพื่อให้ได้งาน เพราะจากคำถามที่ระดมเข้ามา คุณไม่สามารถ เฟคเป็นคนอื่นได้แน่ๆ...
อย่างผมแรกๆ ก็กดดัน แต่พอเริ่มคุยไปเรื่อยๆ กลายเป็นเรียกว่าพี่ กับน้อง แทนเรียกชื่อจริงซะงั้น ...
ระหว่างที่คุยเรื่องเกี่ยวกับตัวเราอย่างออกรส สลับกับความเฮฮาเป็นระยะแล้ว จะมีคำถามเกี่ยวกับไอเดียใหม่ๆ ในงานที่เราจะต้องไปทำ เข้ามาทดสอบเป็นระยะๆ ...
จุดนี้ผมว่า ใครถูกเรียกสัมฯ ควรเตรียมตัวมาเยอะๆ ให้เยอะกว่าความรู้ทั่วๆไปเกี่ยวกับบริษัทนะครับ....เพราะทันทีที่ถาม สายตากรรมการจากเฮฮานี่เปลี่ยนเป็นจริงจังทันที ผมเดาว่าน้ำหนักในส่วนนี้คงจะมาก ..
loading...
บางจังหวะ จะมีคำถามสลับอารมณ์ ได้อย่างเหลือเชื่อ ... ซึ่ง จขกท. ทีได้ทำงานเกี่ยวกับคนเกือบ 10 ปี รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้ประสบการณ์สูงมาก และไม่ธรรมดาเลยครับ อย่าคิดจะเฟคใส่เขาเลยครับ ไม่สำเร็จแน่ๆ และจะทำให้การสัมฯไม่สนุก
ปิดท้ายกันด้วยเปิดโอกาสให้เราถาม .... จขกท. มองว่าจุดนี้สำคัญนะครับ ... คำถามที่ดีแปลว่า เราเตรียมตัวมาดี ..และกรรมการทุกท่าน ก็ช่วยกันตอบอย่างจริงจัง ได้แลกเปลี่ยนความรู้กัน แบบมืออาชีพเลยทีเดียว...
ปิดท้ายด้วย HR บอกว่าจะแจ้งให้ทราบภายในสัปดาห์นี้ ... จบสัมฯ จขกท. กินเวลาไปเกือบ 1 ชั่วโมง กรรมการหลายท่าน ถึงกับลุกออกจากห้องมาเปลี่ยนอิริยาบทเลยทีเดียว...เข้าห้องน้ำบ้าง ออกมาดื่มน้ำบ้าง ... เรียกหมดแรงกันทั้งคนสัมฯ คนสมัคร
ตอนนี้ จขกท. ยังไม่ได้ทำงานที่นี่นะครับ ....แต่ยืนยันได้ว่าคุ้มค่ามากที่มาสัมภาษณ์ อย่างน้อยที่สุด ก็จะได้รู้วิธีการทำงานแบบมืออาชีพตัวจริง ..ที่ไม่ธรรมดา ...สุดท้ายถึงไม่ได้งานก็ไม่เสียใจเลยครับ ... เพราะส่วนตัวถือว่าได้ "ปล่อยของ" เต็มที่แล้ว ... เพราะการสัมภาษณ์ของกรรมการเปิดโอกาส+เค้นตัวเราออกมาเต็มที่จริงๆครับ .... ส่วนเพื่อนๆ ที่มาสัมฯวันเดียวกัน ใครได้งานไป ก็ขอแสดงความดีใจด้วยครับ
ข้อคิดส่วนตัวที่ได้ คือ 1.จงเป็นตัวของตัวเอง 2.การสัมภาษณ์งาน เป็นการวิเคราะห์ตัวตนของเรา ถึงไม่ได้งานนี้ แต่สิ่งที่เราารู้จะเป็นประโยชน์ในการสมัคร และเลือกงานครั้งต่อไปแน่ๆครับ 3.การสัมฯ เป็นการแข่งขันกับตัวเองครับ ว่าเราทำได้ดีแค่ไหน ไม่ต้องเปรียบเทียบกับคนอื่นๆ เพราะมีจุดดี จุดด้อยต่างกัน
ขอให้ทุกท่านโชคดีครับ
loading...
ที่มา: http://www.siamupdate.com
Social Media Icons